จุดจบของคนไม่มีมารยาท เด็กหญิงผมทอง กับหมีสามตัว

เด็กหญิงผมทอง กับหมีสามตัว อย่างที่ทีนเอ็มไทยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าเจ้าหญิงดิสนีย์ต้นฉบับอย่าง สโนว์ไวท์ ซินเดอเรลล่า และเจ้าหญิงนิทรากำลังอ่านให้เพื่อนๆ ฟังแล้ว ในรูปแบบ 2 พี่น้องกริมม์ (The Brothers Grim) มาคราวนี้ทีนเอ็มไทยยังมีนิทานพื้นบ้านพี่น้องกริมม์เวอร์ชั่นโหดๆ มาอ่านกันต่อครับ มาดูกันว่าทำไมคุณถึงดู  นิทานพื้นบ้านที่โหดร้ายที่สุด ฉบับพี่น้องกริมม์ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เมื่อเทพนิยายกริมม์ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรก เยอรมนีอยู่ท่ามกลางการปฏิวัติทางวรรณกรรมครั้งใหญ่ นั่นคือ Sturm und Drang นำไปสู่การต่อต้านแนวคิดทางปรัชญา เช่น การแสดงอารมณ์เหนือจิตสำนึก จึงทำให้งานเขียนในอดีตถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างกว้างขวาง

 

เด็กหญิงผมทอง กับหมีสามตัว ฉบับที่คุณรู้

 

เด็กหญิงผมทอง กับหมีสามตัว แล้วฉากก็ปรากฏเจ้าบ้านมาถึง มีหมีสามตัว พ่อ แม่ และลูก พวกมันทั้งสามเห็นสิ่งผิดปกติในบ้าน ชามโจ๊กถูกกินโดยใครบางคน มีคนนั่งบนเก้าอี้บ้าง ยังพังอยู่ พอพ่อแม่ลูกหมีเข้าห้องนอน พ่อหมีเห็นที่นอนยับๆบนเตียงก็พูดว่า “ดูสิ ไม่รู้ว่าใครนอนเตียงเราบ้าง” ลูกหมีเดินไปที่เตียงของเขาแล้วพูดว่า “ดูสิ ฉันไม่รู้ว่าใครนอนอยู่บนเตียงของฉัน” ส่วนสาวน้อยของฉัน ทอง นอนหลับอุตุอยู่บนเตียง สะดุ้งตื่น ได้ยินเสียงหมี 3 ตัวคุยกันอยู่ข้างเตียง ก็ตกใจ รีบกระโดดลงจากเตียงให้เร็วที่สุด และตั้งแต่นั้นมา วิ่งหนีออกจากบ้านหมี 3 ตัว เด็กหญิงผมทองไม่กล้าเข้าไปในอาณาเขตบ้าน หมีอีก 3 ตัวหนีออกจากบ้าน

 

เวอร์ชั่นพี่น้องตระกูลกริมม์

 

หมีสามตัวในเวอร์ชั่นดั้งเดิม ไม่ใจดีกับสาวผมทอง ในนิทานดั้งเดิม เมื่อหมีสามตัวพบเด็กสาวผมทองบนเตียง หมีสามตัวฉีกเขาออกจากกัน จนร่างแหลกสลาย แล้วกินเป็นมื้อเที่ยง สำหรับฉบับที่สอง เมื่อสาวผมทองลืมตาขึ้นและเห็นหมีสามตัวของเธอ เธอตกใจมากจนกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง แต่เขารู้สึกว่าเขากระโดดผิดตำแหน่ง เขาพลาดพื้นและประสบอุบัติเหตุ คอหัก และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มันคงเป็นจุดจบที่เหมาะสมสำหรับชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่บุกเข้าไปในบ้าน

 

พี่น้องตระกูลกริมม์

 

พี่น้องกริมม์ (อังกฤษ: The Brothers Grimm; เยอรมัน: Die Gebrüder Grimm) ยาค็อบ กริมม์ (พ.ศ. 2328–2406) และวิลเฮล์ม กริมม์ (พ.ศ. 2329–2402) เป็นนักวิชาการชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงจากผลงานการรวบรวมนิทานพื้นบ้านและเทพนิยาย รวมทั้งวิวัฒนาการของภาษา เมื่อเวลาผ่านไปงานที่เกี่ยวข้องกับ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในคู่นักเล่าเรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป ผู้เผยแพร่เทพนิยายมากมาย เช่น รัมเพิลสติลสกิน, สโนว์ไวท์, ราพันเซล, ซินเดอเรลล่า, ฮันเซล และเกรเทลไปทั่วโลก

 

ที่มาของเทพนิยายกริมม์

 

Grimm’s Fairy Tales นิทานของสองพี่น้องชาวเยอรมัน Jacob Grimm และ Wilhelm Grimm เกิดจากความสนใจอย่างลึกซึ้งในภาษา ไวยากรณ์ และประวัติศาสตร์ โดยรวบรวมจากคำพูด บอกเล่าสิ่งที่คุณได้ยิน ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2355 ในชื่อ Children’s and Household Tales ซึ่งมักเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Grimm’s Tales

ในตอนแรกได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ดี กับเรื่องราวดีๆ ไม่หวานแหวว เหมือนที่เราอ่านๆ กันวันนี้ แต่มาสะสางในภายหลัง ทำให้เรื่องน่าอ่านขึ้น และเนื้อหาที่ยั่วยุหรือรุนแรงบางส่วนยังถูกตัดออกเมื่อแปลเป็นภาษาอื่น

เทพนิยายของพี่น้องกริมม์มีหลากหลายจินตนาการ ทั้งเวทมนต์ ภูตน้อย ยักษ์ สัตว์ที่กลายร่างเป็นคน และคนที่สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้ เช่น นิทานเรื่องดังอย่าง Snow White, Cinderella, Rapunzel, Sleeping Beauty รวมถึงการขึ้นต้นด้วยประโยคอันโด่งดังว่า “กาลครั้งหนึ่ง” และ หนูน้อยหมวกแดง เป็นต้น

พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดชีวิตของพวกเขา แม้แต่การเซ็นสัญญาต่างๆ เขายังใช้ชื่อสามัญว่า “Brothers Grimm” นอกจากเทพนิยายชื่อดังแล้ว เขายังเป็นครูสอนภาษาโบราณ เป็นศาสตราจารย์ บรรณารักษ์ และเป็นผู้มีอิทธิพลในขบวนการประชาธิปไตยของเยอรมัน แม้ว่าสองพี่น้องกริมม์จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่งานยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

นิทานของพี่น้องกริมม์  เมื่อยาโคบ ลูกชายคนโตอายุได้ 11 ปี ฟิลิป วิลเฮล์ม บิดาของเขาเสียชีวิต ดังนั้นครอบครัวจึงย้ายไปอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ ในเมือง พวกเขาติดอยู่และถูกทิ้งให้อยู่กับแม่ที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงและเลี้ยงลูก แม้ว่าทรราชหญิงมักมีบทบาทสำคัญในเทพนิยาย เช่น แม่เลี้ยงใจร้ายและน้องสาวสองคนในซินเดอเรลล่า แต่ผู้วิจารณ์มักลืมไปว่าพี่น้องกริมม์เป็นเพียงนิทานชุดหนึ่ง ไม่ได้รับการแก้ไข

 

4 มกราคม – วันนี้ในปี 1785 ยาค็อบ กริมม์ เป็นวันเกิดของพี่ชายคนโต

 

เด็กหญิงผมทอง กับหมีสามตัว ในพงศาวดารของสองพี่น้องกล่าวว่า Brothers Grimm ตรงกับเวลาของเรา คำจำกัดความของ Jakob กล่าวว่าพี่ชายที่เกิดในวันนี้ Grimm ที่แก่กว่าค่อนข้างลำบากและ “เก็บตัว” ในขณะที่ Grimm ที่อายุน้อยกว่านั้นสบายๆ ตลอดชีวิตของการผลิต สองพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันในห้องเดียว หันหน้าไปทางโต๊ะ

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 เยอรมนีประสบกับการรวมเป็นหนึ่งเป็นจังหวัด กลุ่มเดียวกัน? ต้องดูและสร้างสิ่งที่เรามีเหมือนกัน ที่ง่ายที่สุดและชัดเจนที่สุดคือพวกเขาแบ่งปันภาษาและเรื่องราวเดียวกัน “นิทานเยอรมัน” จึงเป็นหนทางหนึ่งในการสร้างความสามัคคี สร้าง “ ความเป็นเยอรมัน ” ให้มีความรู้สึกมากขึ้น

 

บทความแนะนำ