นิทาน กริม ม์ หนู น้อย หมวก แดง เป็นนิทานพื้นบ้านสำหรับเด็ก ที่แพร่หลายไปหลายประเทศ เป็นเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ซึ่งเนื้อเรื่องก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ชื่อเรื่องในภาษาต่างประเทศก็มี Little Red Riding Hood, Little Red Cap, La finta nonna, Le Petit Chaperon Rouge และ Rotkäppchen
นิทาน กริม ม์ หนู น้อย หมวก แดง ฉบับปัจจุบัน
นิทาน กริม ม์ หนู น้อย หมวก แดง หมวกสีแดงได้ชื่อมาจากหมวกสีแดงที่เขามักจะสวมเมื่อออกนอกบ้าน วันหนึ่งแม่ของฉันให้ผลไม้แก่หนูน้อยหมวกแดง ที่บ้านห่างไกลพร้อมน้ำองุ่นเพื่อมอบให้คุณย่าที่ป่วยและเครียด ขอให้สาวน้อยรีบกลับอย่าหยุดเร่ร่อนไปไหน เด็กหญิงตัวเล็กรับคำนี้และจากไปทันที
ระหว่างทาง หนูน้อยหมวกแดงหยุดและเด็ดดอกไม้สวยๆ จากนั้น สัตว์ประหลาดเจ้าเล่ห์ ก็ปรากฏตัวขึ้น โน้มน้าวเด็กน้อยให้เชื่อ เก็บดอกไม้สวยๆมอบให้คุณย่าที่ป่วย เด็กน้อยเชื่อคำพูดของสัตว์ประหลาด เพลิดเพลินกับการเก็บดอกไม้จนลืมเวลา
หมาป่าเจ้าเล่ห์เห็นโอกาสจึงรีบตรงไปที่บ้านของคุณยาย จัดการกลืนคุณยายลงท้อง แล้วนอนรอเตรียมกินหนูน้อยหมวกแดงตัวอื่น เมื่อเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มาถึงบ้านของคุณยายเธอเริ่มเข้าใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่ทันเวลา หมาป่าเจ้าเล่ห์กระโจนใส่หนูน้อยหมวกแดง แล้วกลืนลงไปในท้องทันที
เทพนิยายอมตะเรื่อง หนูน้อยหมวกแดง โดยนักเล่านิทานชาวฝรั่งเศส Charles Perrault เป็น. ถูกรวบรวมไว้ใน 1697 และต่อมาพี่น้องตระกูลกริมม์ได้คิดค้นนิทานเรื่องใหม่ขึ้นโดยจัดพิมพ์ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายร้อยปี ดังนั้นจึงมีส่วนที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ตามต้นฉบับ อาจจะไม่ใช่นิทานสำหรับเด็กโดยตรง แต่เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจสาวๆ อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า เพราะอาจเป็นอันตรายได้ แต่ตอนนี้ หนูน้อยหมวกแดง ได้กลายเป็นเทพนิยายนิรันดร์สำหรับเด็กทั่วโลก
หนู น้อย หมวก แดง ประวัติ และ เนื้อเรื่องที่เปลี่ยนไป
ที่มาของเรื่องนี้ เป็นเรื่องเล่าปากต่อปาก แพร่หลายไปในหลายประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งคาดว่าน่าจะก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 17 และเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ มีหลายฉบับในสหภาพ ไม่เหมือนรุ่นที่รู้จักและแพร่หลายในปัจจุบัน
La finta nonna นิทานเก่าแก่ของอิตาลี ใช้ความบ้าคลั่งของสาวน้อย เอาชนะสัตว์ประหลาดด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายหรือผู้ชายที่มีอายุมากกว่า ต่อมามีการเพิ่มตัวละครชายเพื่อลดบทบาทของสาวน้อยที่เป็นผู้หญิง เธอยังต้องการความช่วยเหลือเพื่อป้องกันตัวเองจากผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่าด้วยการแสร้งทำเป็นเป็นผู้หญิง ในเรื่องคือคนตัดไม้เอง
Le Petit Chaperon Rouge อย่างที่คุณทราบ นี่เป็นนิทานพื้นบ้านฝรั่งเศสฉบับตีพิมพ์เร็วที่สุด ด้วยเรื่องราวดังกล่าวจึงตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1697 ในนิตยสาร “Histoires et contes du temps passé, avec desmoralités” นิทานคุณธรรมโดย Charles Perrault เนื้อเรื่องของฉบับนี้ ค่อนข้างรุนแรง ต้องขอบคุณความพยายามในตอนท้ายของเรื่องนี้ ทั้งยายและเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ถูกหมาป่ากินเพื่อคำขวัญทางศีลธรรมต่างๆ คุณธรรมของ Charles Perrault สำหรับเรื่องนี้คือเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงไม่เชื่อคำพูดของคนแปลกหน้า และแม้ว่าเราจะปลูกอาหารให้หมาป่า แต่ก็ยังเป็นหมาป่าเลี้ยง แต่สัตว์ประหลาดที่เป็นมิตรและว่านอนสอนง่ายนั้นน่ากลัวกว่า
ในศตวรรษที่ 19 เรื่องนี้ไม่มีในภาษาเยอรมัน เป็นเรื่องเดียวภายใต้ชื่อ Rotkäppchen ในคอลเลกชั่น Kinder- und Hausmärchen เธอได้รับการช่วยเหลือจากนักล่าหมาป่า จากนั้นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และคุณยายของเธอก็ใช้ประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ เพื่อจับและฆ่าสัตว์ประหลาดตัวอื่น
จากนั้นฉบับปี 1857 ของสองพี่น้องก็เป็นเรื่องราวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยมีการเพิ่มเติมจินตนาการมากกว่าฉบับอื่นๆ ก่อนหน้านี้ โดยทั้งเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และคุณยายถูกหมาป่ากิน แต่ต่อมาก็มีคนตัดไม้มาช่วย ช่วยเด็กน้อยและคุณยายด้วยการฉีกท้องของสัตว์ประหลาดออกจากกัน ออกไปอย่างปลอดภัยและเสียง
ต้นกำเนิดหนูน้อยหมวกแดง
นักมานุษยวิทยาพบว่าเรื่องราวของหนูน้อยหมวกแดงมี ต้นกำเนิดเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะแพร่กระจายไปพร้อมกับการอพยพของมนุษย์เข้าสู่แอฟริกาและเอเชีย กลายเป็นนิทานพื้นบ้านของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
ดร. Jamshid Tehrani แห่ง Durham University ในอังกฤษกล่าวกับวารสารวิชาการ PLoS ONE ว่านิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงมีต้นกำเนิดมาจากนิทานปากเปล่าเรื่อง Wolf and the Boy จนถึงทุกวันนี้มีการพูดกันปากต่อปากในบางประเทศ
Teheran ขึ้นอยู่กับแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของนักชีววิทยาวิวัฒนาการ มันยังคงเป็นที่มาของนิทานเรื่อง “The Wolf and the Children” ซึ่งเริ่มแพร่หลายในยุโรปในศตวรรษที่หนึ่ง เขาพบว่านิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 1,000 ปีที่แล้วใน The Wolf and the Boy และกลายเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับหนูน้อยหมวกแดงในฝรั่งเศส ออสเตรีย และอิตาลีตอนเหนือ
เรื่องราวของหนูน้อยหมวกแดง (หมวกแดง) กลายเป็นนิทานเขียน เขียนโดยนักเขียนชาวฝรั่งเศส Charles Perrot ในช่วงทศวรรษที่ 1600 ก่อนที่จะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเราเมื่อ 200 ปีที่แล้ว และหมาป่ากับเด็กน้อยกลายเป็นนิทานที่เขียนขึ้นจากนิทานชื่อหนูน้อยหมวกแดง ในยุโรป ผู้อพยพจากแอฟริกาและเอเชียเล่าเรื่องหมาป่ากับเด็กชาย ในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี หมาป่ากับเสือน้อยกลายเป็นเรื่องเล่าของคุณยาย
นิทาน หนูน้อยหมวกแดง มีต้นกำเนิดจากวรรณกรรมมุขปาฐะ
นิทาน กริม ม์ หนู น้อย หมวก แดง ดร.เตหะรานีโต้แย้งทฤษฎีนี้ว่าคุณยายเสือคือต้นกำเนิดของหมาป่าและเด็กน้อย และเรียกหนูน้อยหมวกแดงว่าเป็นแบบจำลองที่นำมาจากสาขาวิวัฒนาการทางวิวัฒนาการและวิวัฒนาการ มันมีผลตรงกันข้าม
เรื่องราวของหมาป่ากับเด็กชายได้รับการดัดแปลงเป็นนิทานกริมม์ของเยอรมัน ภายใต้ชื่อ หนูน้อยหมวกแดง เป็นเรื่องราวของแม่แพะที่ทิ้งลูก ๆ ไว้ที่บ้านในขณะที่แม่ออกไปนอกบ้าน พร้อมย้ำอย่าเปิดประตูให้ใครจนกว่าแม่จะกลับมา
แต่หมาป่าเลียนเสียงแม่แพะ แล้วเอาแป้งมาถูที่เท้าจนขาวเหมือนแม่แพะ แพะยอมเปิดประตูให้เด็กเชื่อหมาป่าจึงเข้ามากินเด็ก คนสุดท้องรอดชีวิตคนเดียว แม่แพะตามไปจนพบหมาป่า ใช้กรรไกรผ่าท้องช่วยลูกแล้วเอาหินยัดท้องปิด เมื่อสัตว์ประหลาดไปที่ลำธารเพื่อดื่มน้ำ มันก็ตกลงมาตายเพราะน้ำหนักของหิน เรื่องของยายเสือมีโครงเรื่องคล้ายๆ กัน มุ่งเตือนลูกหลานว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า